การทำโฆษณาครบวงจร ที่เห็นผลได้จริง

      คุณเคยรู้สึกสงสัยไมว่า ทำไมโฆษาตัวหนึ่งถึงตามคุณไปทุกช่องทาง โซเชียล เลย วันนี้เรามาแนะนำการทำการตลาดที่ครบวงจรกันเลยที่เดียว

       เป็นการทำโฆษณาที่เน้นไปที่การ Search ของคน ยกตัวอย่างเช่นถ้าสิ้นค้าที่คลายคลึงกัน อีกสิ้นค้านึ่งติดหน้าต้นๆ ของการค้นค้าหน้าแรกๆก็มีโอกาสที่จะขายสิ้นค้าหรือบริการนั้นๆได้ก่อน

       การทำโฆษณาบน Youtube ที่นิยมมากในช่วงนี้เพราะมีค่าใช่จ่ายที่ต่ำกว่าช่องทางอื่น ๆ แม้เป็นเวลาในช่วงสั้นๆก็ตาม แต่ก็สร้างการจดจำแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ ของเรา ได้ดี

 

           เว็บไซต์ต่างๆ ก็จะต้องเจอป้ายโฆษณาเต็มไปหมด เพราะหลายเว็บไซต์เป็นพันธมิตรกับ Google ครับ
ว็บไซต์ต่างๆ ก็มีช่อง Search ของ Google ดังนั้นก็จะเจออีก
เมื่อเข้าเว็บไซต์จากลิ้งที่คลิ๊กโฆษณาของ Google แล้วคุณจะติดใยแมงมุมไป ทำให้คุณเจอป้ายๆ ต่างๆ บ่อยขึ้น และยังไปเจอใน Facebook อีกด้วย เพราะจากหัวข้อ Facebook มี Code Pixel ติดอยู่นั่นเองครับ

#ไม่ว่าธุรกิจคุณจะเล็กหรือใหญ่ก็โดดเด่นได้ในโลกออนไลน์

📢สนใจติดต่อ
📱📱📱📱📱☎️☎️☎️☎️☎️
Tel.

Promotion รับหน้าฝน

⚡ถึงช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แต่ราคาทำเว็บไซต์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนะครับ โปรโมชั่นรับหน้าฝน ทำเว็บไซต์ 🔥🔥ราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท🔥🔥
✔ ฟรีโดเมน / 1ปี
✔ ฟรีโฮสต์ / 1ปี
✔ รองรับทุกอุปกรณ์การใช้งาน
✔ ติดตั้ง SEO เบื้องต้น
⭐⭐⭐ #ราคานี้ไม่ควรพลาด ⭐⭐⭐#ไม่ว่าธุรกิจคุณจะเล็กหรือใหญ่ก็โดดเด่นได้ในโลกออนไลน์📢สนใจติดต่อ
📱📱📱📱📱☎️☎️☎️☎️☎️
Tel.

ต้องทำการตลาดอย่างไรให้อยู่รอดบนโลกธุรกิจ

ทำการตลาดอย่างไรให้อยู่รอดบนโลกธุรกิจ

คุณอาจต้องเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำการตลาดอย่างไรในยุคที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลยมีที่ปรึกษาทางด้านการตลาด เกิดขึ้นมาอย่างมาก แต่วันนี้ IMARGET จะมาแชร์เคล็ดลับในการทำการตลาดแบบมืออาชีพ

เน้นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ

เนื่องจากการหว่านแหเพื่อการสื่อสารกับผู้บริโภคนอกจากจะทำให้ไม่ได้ผลที่ดีแล้วจะทำให้เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ แนะนำให้ทำแบบสอบถามความต้องการของลูกเพื่อหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าของคุณ

ข้อมูล/พฤติกรรมลูกค้า

หลายคนอาจมองว่าการมีข้อมูลไม่ใช่เรื่องที่สำคัญมากนัก แต่ที่จริงแล้วการมีข้อมูลที่ดีและแม่นยำ ถูกต้อง คือหัวใจที่สำคัญในการเพิ่มฐานลูกค้าและยอดขายที่ดี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่สุด

เครื่องมือการสื่อสารที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

นการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing จำเป็นต้องมีการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ผ่านรูปแบบ 3 SETs ประกอบไปด้วย MindSET เราต้องมีแนวความคิดว่า Inbound Marketing คือการตลาดแบบหวังผลระยะยาว ไม่ใช่แคมเปญระยะสั้น SkillSET คือการทำสิ่งที่วางไว้ใน MindSET ให้เกิดขึ้นได้จริง และ ToolSET คือการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับแต่ละบริษัท และเหมาะกับกลุ่มลูกค้าเพื่อที่จะทำให้สิ่งที่ SkillSET วางแผนไว้สำเร็จตามที่ MideSET ตั้งไว้บางครั้งการใช้เครื่องมือก็จำเป็นต้องใช้เครื่องมือมากกว่าหนึ่งอย่างขึ้นไป จึงจะประสบผลสำเร็จ เช่น เมื่อลูกค้ากรอกข้อมูลมาก็สามารถใช้เครื่องมือในการคำแนกข้อมุล รวมไปถึงการใช้เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปใช้งานต่อในด้าน CRM หรือเครื่องมือที่ใช้ในการซิงค์ข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผสมผสานทั้ง Online/Offline

เฉกเช่นเดียวกับเรื่องการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing และ Outbound Marketing แม้ว่าในยุคปัจจุบันเน้นสร้างกิจกรรมแบบ Online ซึ่งได้รับนิยมอย่างมาก แต่การทำกิจกรรมแบบ Offline ก็ยังคงอยู่ ซึ่งหลายครั้งที่กิจกรรมเหล่านั้นได้รับผลตอบรับที่ดี อย่างเช่น การจัดอีเว้นท์ต่างๆ

ข่าววันที่ 6/06/62

 

   

Google Adwords – การตลาด Search Engine สำหรับสายเปย์

Adwords คืออะไร?

Google Adwords คือ ช่องทางซื้อพื้นที่โฆษณาออนไลน์ของ Google ที่เก็บค่าโฆษณาตามจำนวนครั้งที่ปรากฏจริงๆ โดยที่คุณสามารถกำหนดได้ว่า

WHERE – โฆษณาจะนำไปแสดงที่ไหน
WHO – กำหนดได้ว่าใครจะเห็นโฆษณาของคุณบ้าง
PRICE & BUDGET – กำหนดวิธีคิดค่าโฆษณาและงบประมาณในแต่ละวันได้ว่าไม่เกินเท่าไหร่

โฆษณาจะถูกนำไปแสดงที่ไหน?

พื้นที่โฆษณาของ Google Adwords จะแบ่งเป็น 2 เน็ตเวิร์ค หลักๆ คือ

Search Network คือ พื้นที่โฆษณาบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาบน Google (Search Engine Result Page – SERP) ซึ่งจะให้ผลลัพธ์คล้ายกับการทำ SEO

Display Network คือ พื้นที่โฆษณาบนเว็บอื่นๆ (Google Partner Sites) ที่มีเนื้อหาคล้ายเว็บของคุณ หรือตามหมวดหมู่ตามที่คุณกำหนดไว้

 

ปัจจุบัน Google Adwords ยังมีโฆษณาอีก 2 รูปแบบ ที่คุณอาจสนใจลงโฆษณา คือ

Shopping เป็นรูปแบบการโฆษณาที่เหมาะกับการขายสินค้าโดยเฉพาะ โดยจะแสดงทั้ง Search Network และDisplay Network โดยการแสดงผลจะแสดงรูปสินค้าและราคา

Video เป็นการลงโฆษณาในรูปแบบวิดีโอบน Youtube

ใครจะเห็นโฆษณาบ้าง?

เพื่อให้โฆษณามีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น Google Adwords ให้คุณสามารถกำหนดได้ว่าโฆษณาของคุณจะถูกแสดงให้คนที่มีคุณสมบัติอย่างไร ทั้งเรื่องของ

ที่อยู่ – เฉพาะประเทศไทย เฉพาะจังหวัด หรือ พื้นที่ที่กำหนด
เพศ – เพศชาย / หญิง / ไม่ระบุ
ช่วงอายุ – 18-24 ปี, 25-34 ปี, 35-44 ปี, 45-54 ปี, 55-64 ปี หรือมากกว่า 65 ปี

PRICE & BUDGET – คิดค่าโฆษณายังไง?

Google Adwords จะใช้วิธีการประมูลในการซื้อโฆษณา ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดจะได้สิทธิในการโฆษณาก่อน

บน Search Network จะคิดค่าโฆษณาตามยอดคลิก (Cost-Per-Click – CPC) โดยราคาต่อคลิกจะมีตั้งแต่คลิกละไม่กี่บาทจนถึงหลายสิบบาท อยู่ที่ว่าคีย์เวิร์ดที่คุณซื้อนั้นมีการแข่งขันมากน้อยแค่ไหน
บน Display Network คุณสามารถเลือกได้ว่าจะคิดค่าโฆษณาตามยอดคลิก (CPC) หรือตามยอดวิว(Cost-Per-thousand-viewable-Impression – vCPM) ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการโฆษณาของคุณ เช่น ถ้าคุณต้องการให้ลูกค้าเข้ามาบนเว็บ คุณอาจะเลือกใช้การคิดราคาแบบ CPC แต่หากคุณต้องการใช้โฆษณาในเชิงสร้าง Brand Awareness ให้คนเห็น Brand ของคุณบนที่ต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น vCPM อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

Adwords vs SEO

พอรู้จักกับ Google Adwords กันอย่างหอมปากหอมคอแล้ว คุณน่าจะเห็นได้ว่า จุดประสงค์ของ Adwords กับSEO จะค่อนข้างคล้ายกัน คือ ต้องการให้หน้าเว็บของคุณอยู่บน Search Engine อย่าง Google เพื่อดึงคนเข้าเว็บให้ได้มากที่สุด ทีนี้ลองมาดูแตกต่างของทั้ง 2 อย่างเปรียบเทียบกันดูบ้าง

Google Adwords
SEO

ใช้เงิน (ซื้อค่าโฆษณา)

ใช้แรงและเวลา (เขียน content, ปรับโครงสร้างเว็บและอีกมากมาย)

เห็นผลเร็วกว่า (ซื้อแล้วขึ้นทันที)

เห็นผลช้ากว่า (รอผลเป็นเดือน)

หยุดซื้อ ยอดผู้ชมหายทันที

ทำแล้วอยู่ยาวๆ (ถ้าขึ้น Top 10 ไปแล้ว แม้จะหยุดทำบ้างก็ยังมียอดผู้ชมเข้าอยู่ เพราะตำแหน่งบน Google มักจะไม่เปลี่ยนเร็วมาก)

ควบคุมผลลัพธ์ที่แน่นอนได้ (เงินถึง วิวมา)

ควบคุมผลลัพธ์แน่นอนไม่ได้ (ไม่รับประกันว่าต้องทำมากน้อยแค่ไหนถึงจะขึ้น Top 10 ได้)

สามารถเจาะจงผู้ใช้ได้มากกว่า (ที่อยู่, เพศ, อายุ)

ไม่สามารถเจาะจงผู้ใช้ได้

ผู้ใช้บางคนไม่ชอบกดโฆษณา

ผู้ใช้แทบทุกคนเชื่อใจการจัดอันดับบน Google

ส่งผลดีกว่าในระยะสั้น

ส่งผลดีกว่าในระยะยาว

สรุป: There’s no perfect tool for everything.

iPadOS ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad ที่จะมาแทนที่ iOS แบบเดิมๆ

iPadOS มีอะไรใหม่ ?
หน้าจอโฮมใหม่

หน้าจอโฮมให้แสดงแอพในแต่ละหน้าได้มากขึ้น เพิ่ม Today View (มุมมองวันนี้) ลงในหน้าจอโฮมแล้ว เพื่อช่วยให้เข้าถึงวิดเจ็ตได้อย่างรวดเร็วและดูข้อมูลอย่างเช่นพาดหัวข่าว พยากรณ์อากาศ ปฏิทิน กิจกรรม และอีกมาก

 

วิธีใช้งาน Apple Pencil ที่หลากหลายขึ้น

สามารถขีดเขียนและส่งทั้งหน้าเว็บ เอกสาร หรืออีเมลบน iPad โดยการปัด Apple Pencil จากมุมของหน้าจอได้แล้ว จานเครื่องมือที่ออกแบบใหม่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือ จานสี รูปทรง ยางลบวัตถุ ยางลบพิกเซลใหม่สำหรับลบส่วนใดก็ตามของเส้นขีด และไม้บรรทัดสำหรับวาดเส้นตรงที่สมบูรณ์แบบ Apple Pencil ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะใช้อัลกอริธึมคาดการณ์ขั้นสูงและการปรับค่าที่เหมาะสมที่สุด เพื่อลดความหน่วงในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมให้ต่ำลงไปอีกที่ 9 มิลลิวินาที

ปรับปรุงการแก้ไขข้อความ

การแก้ไขข้อความบน iPad ได้รับการอัพเดทที่สำคัญพร้อมกับ iPadOS จึงทำให้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้นแก้ไขง่ายๆแค่ใช้นิ้วปัดเพื่อเลือกข้อความ และใช้คำสั่งนิ้วแบบใหม่เพื่อตัด คัดลอก วาง และเลิกทำ

นอกเหนือจากนี้ iPad สามารถเสียบ USB FLASH Drive ได้แล้ว และสามารถใช้ iPad เป็นจอที่ 2 ในการใช้ร่วมกับ Mac รวมถึงต่อกับกล้องได้ด้วยผ่าน USB-C

ทั้งนี้  iPadOS จะปล่อยให้อัพเดทฟรีในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้สำหรับ iPad Air 2 ขึ้นไป , iPad Pro ทุกรุ่น, iPad รุ่นที่ 5 ขึ้นไป และ iPad mini 4 ขึ้นไป

ข้อมูลจาก Apple ,https://www.

ถ้าธุรกิจของคุณยังไม่มีเว็บไซต์หรือมีแล้วแต่ยังไม่ติดหน้าแรกของ Google

ถ้าธุรกิจของคุณยังไม่มีเว็บไซต์หรือมีแล้วแต่ยังไม่ติดหน้าแรกของ Google #นี้คือเรื่องที่จำเป็นต้องทำเป็นอย่างมาก ในโลกของการแข่งขันสูงขึ้น ถ้าคุณยังไม่มีเรื่องเหล่านี้ ธุรกิจคุณจะตามคุ่แข่งไม่ทันนะจ๊ะ
#อยากทำเว็บไซต์ #อยากให้ติดหน้าแรกของGoogle
#imargetเราทำให้ได้
📱📱📱📱📱☎️☎️☎️☎️☎️
Tel.

ธุรกิจของคุณเจอปัญหาเหล่านี้

ถ้าการทำธุรกิจของคุณเจอปัญหาเหล่านี้แล้วละก็
☑️ ไม่มีลูกค้าใหม่เลย !!!
☑️ ลูกค้าเก่าก็ไม่เลือกใช้บริการเราต่อ !!!
☑️ ยอดขายก็ไม่ปังเหมือนเดิม !!!

👉👉 ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าคุณทำการตลาดที่ #ถูกที่ถูกทาง 👈👈
imarget เรายินดีให้คำปรึกษาด้านการตลาดทุกรูปแบบ
ไม่ว่า ธุรกิจคุณจะ เล็กหรือใหญ่
#ให้คำปรึกษาฟรี
📱📱📱📱📱☎️☎️☎️☎️☎️
Tel.

ทำเว็บอย่างไรให้สวยจนคนสนใจ

1.การออกแบบเว็บไซต์เรียบหรู ดูดี และทันสมัย

Back to Basic ใช้ได้เสมอ การออกแบบเว็บไซต์ ให้เรียบหรู และดูง่ายสบายตา ในสไตล์แบบ Minimal, Flat จะเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานได้มากกว่าเว็บไซต์ที่มีสีสันฉูดฉาด รวมถึงการใช้ Banner เป็นวีดีโอภาพเคลื่อนไหวจะสามารถทำให้ผู้ใช้ให้ความสนใจมากขึ้น

 

2.ไม่ Hardsale เกินไป

จะต้องไม่ทำผู้ใช้ให้รู้สึกรำคาญ และรู้สึกว่าโดนยัดเยียดการโฆษณามากเกินไป ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่สนใจมองแบนเนอร์ โฆษณา ดังนั้นการวางโฆษณาใกล้กับคอนเทนท์จะดีที่สุด จะได้รับความสนใจจากผู้ใช้ค่อนข้างมาก และการโฆษณาแบบตัวอักษรจะได้รับความสนใจมากกว่าโฆษณาแบบภาพหรือกราฟฟิค

 

3.ภาพ กราฟฟิก วีดิโอคือสีสันที่ขาดไม่ได้

เว็บไซต์ของผู้ประกอบการจะดูมีสีสัน และดึงดูดความสนใจจากผู้ที่พบเห็นมากยิ่งขึ้นหากนำภาพถ่าย ภาพวาด กราฟิก และวีดีโอต่างๆเข้ามารวมอยู่ภายในเว็บไซต์ ซึ่งอาจจะเป็นภาพถ่ายของบริษัท ภาพถ่ายสินค้ากราฟิกตกแต่งพื้นหลังของเว็บไซต์ วีดีโอแนะนำเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของบริษัท ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะช่วยทำให้เว็บไซต์ดูดีมีชีวิตชีวา และดึงดูดความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น

 

4.Responsive Design คือสิ่งสำคัญ

ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนเป็นหลักในการเข้าถึงเว็บไซต์ การออกแบบ Responsive Design ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะทุกเว็บไซต์บนโลกใบนี้กว่า 70% สามารถแสดงได้ทุกหน้าจอทั้งหมดแล้ว ดังนั้นการออกแบบเว็บ ก็ควรจะโฟกัสการออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับการแสดงผลทุกหน้าจอ และโดยเน้นการใช้งานหลักบนสมาร์ทโฟนนั่นเอง

5.เว็บโหลดช้าไม่น่าดู

โดยเฉพาะในหน้าเว็บที่มีรูปภาพหลายรูป หากต้องรอโหลดจนเสร็จก็อาจจะใช้เวลานาน สร้างความหงุดหงิดให้กับผู้ใช้ได้ และผู้ใช้ก็จะออกไปเข้าเว็บไซต์อื่นทันที เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ชอบรอ และปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายเกิดขึ้น แลัวยังจะส่งผลเสียต่อ SEO อีกด้วย

 

ก็หวังว่าจะช่วยให้นักออกแบบ และนักพัฒนาเว็บไซต์จะได้แนวทางในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีการพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้แบรนด์นั้นๆ ได้ประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปครับ

   

Read more 1 Comment